วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนตรีมิตร แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ เป็นวัดโบราณอยู่ในที่ลุ่มพระอารามเป็นเรือนไม้ มีชื่อเดิมว่า “วัดสามจีน” เข้าใจกันว่า ชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างพระอารามเพื่อเป็นวิหารทานการบุญในปี พ.ศ. 2477 พระมหากิ๊ม สุวรรณชาต ผู้รักษาการในหน้าที่เจ้าอาวาสเป็นผู้ริเริ่มปรับปรุงวัด ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 ได้รับอนุมัติจากมหาเถรสมาคมให้ปรับปรุงสภาพวัดให้ดีขึ้น ปี พ.ศ. 2482 พ่อค้าประชาชน คณะครูและนักเรียน ได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์และเปลี่ยนนามใหม่ เป็นชื่อ “วัดไตรมิตรวิทยาราม” ซึ่งมีความหมายว่า เพื่อน 3 คนร่วมกันสร้างวัดนี้ ประกอบกับวัดเป็นที่ตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมและโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยของรัฐบาลอยู่ภายในบริเวณวัด และเป็นวัดที่มีสมเด็จพระราชาคณะ 2รูป และเจ้าคณะใหญ่หน 2หนคือ 1.) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) ป.ธ.9 เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก 2.) สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) ป.ธ.6 เจ้าคณะใหญ่หนกลาง

ประวัติ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พระพุทธทศพลญาณ พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้น ลงรักปิดทอง ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “หลวงพ่อโต” บ้าง “หลวงพ่อวัดสามจีน” มีประชาชนมาบนบานกันเสมอ ๆ ด้วยพวงมาลัยดอกมะลิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยทรงเสด็จพระราชดำเนินมานมัสการ และได้ตรัสยกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก “หลวงพ่อโม” อดีตเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เคยได้ทำพระเครื่องแจกครั้งหนึ่ง ได้ทำเป็นรูปพระพุทธทศพลญาณสร้างด้วยเนื้อชิน เรียกชื่อว่า หลวงพ่อโตวัดสามจีน ปรากฏว่าเป็นที่นิยมนับถือของคนทั่งไปว่าศักดิ์สิทธินัก ปัจจุบันนี้หายากแล้ว

พระสุโขทัยไตรมิตร
สิ่งสำคัญของวัด คือ พระสุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการบันทึกในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ พระพุทธรูปทองคำองค์นี้มีหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร องค์พระสามารถถอดได้ 9 องค์ จากฐานองค์พระขึ้นไปเนื้อทองบริสุทธิ์ 40% พระพักตร์มีเนื้อทอง 80% ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม เป็นเนื้อทองบริสุทธิ์ 99.99%

สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย เข้าใจว่า เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ไปอัญเชิญพระพุทธรูปมาจากเมืองเหนือเพื่อนำมาประดิษฐานยังวัดสำคัญ พระพุทธรูปที่เชิญมามีจำนวนมาก ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ขุนนางผู้หนึ่งจึงแอบเอาปูนไล้พระพุทธรูปทองคำแล้วนำมาไว้ยังวัดที่ตนสร้าง จนได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดพระยาไกร (วัดโชติการาม) ต่อมาบริษัท อี๊สต์เอเชียติ๊ก ได้ขอเช่าที่วัด (ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้างแล้ว) เป็นโรงเลื่อยจักร จึงได้อัญเชิญไว้ที่ข้างพระเจดีย์และปลูกเพิงสังกะสีมุงเป็นหลังคากั้นไว้อย่างหยาบ ๆ หลังจากนั้นเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อพระอุโบสถและพระวิหารหลังใหม่สร้างเสร็จจึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน แต่ในระหว่างการเคลื่อนย้ายปูนที่หุ้มองค์พระกระเทาะออก จึงทำให้เห็นองค์พระข้างในเป็นทองคำ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2498

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หรือที่เรียกว่า วัดสามจีน ตั้งอยู่ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ เป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในยุดใด เมื่อก่อนนั้น จะมีชื่อว่า วัดสามจีน เพราะมีเรื่องเล่าว่ามีชาวจีน 3 คน ช่วยกันก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมา แต่อีกสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของวัด ก็คือ พระมหามณฑป นั่นเองค่ะหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรซึ่งพระมหามณฑปนี้ เป็นที่ประดิษฐานองค์ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำ ที่วิจิตรงดงามอย่างมาก และยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วยค่ะ โดยภายในพระมหามณฑป จะมีทั้ง ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ประวัติความเป็นมาของย่านจีนสำเพ็ง-เยาวราช นิทรรศการพระพุทธรูปทองคำ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดพระพุทธรูปต่างๆ จนมาถึง หลวงพ่อทองคำนั่นเองค่ะ

 

ไฮไลท์ ของ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารหลวงพ่อทองคำ นี้ ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่ในอดีตเลย ด้วยความประณีตของพุทธศิลปะ และทำจากเนื้อทองคำบริสุทธิ์นี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆ เลยค่ะ นอกจากนั้นหลวงพ่อทองค้ำนี้ ยังได้รับการจดบันทึกลงกินเนสบุ๊ค ว่าเป็น พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วยวัดสวย กรุงเทพนอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ภายใน วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ทั้ง พระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนามว่า พระพุทธทศพลญาณ หรือ หลวงพ่อโตวัดสามจีน หรือ หลวงพ่อวัดสามจีน ค่ะ รวมไปถึง พระวิหาร และ ธรรมาสน์ลายทองเท้าสิงห์ เป็นต้นค่ะดสวย ของ กรุงเทพฯ นอกจากความสวยงดงามยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ก็ยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานอีกด้วยนะคะ เหมาะมากๆ ที่จะใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ ใครอยากแวะเวียนมาไหว้พระก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน มาลงที่สถานีหัวลำโพง ออกทางออกหมายเลข 1 เดินไปวัดได้เลยค่ะ ประมาณ 10 นาทีก็ถึง ระหว่างทางก็สามารถชมวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ได้อีกด้วยนะคะ

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร แต่เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดสามจีนใต้ ถือว่าเป็นวัดโบราณที่มีความเก่าแก่ โดยสมัยก่อนวัดสามจีนเดิมมีอยู่สามวัด คือ วัดสามจีนที่ตั้งอยู่คลองบางอ้อ หรือวัดสามจีนเหนือ ส่วนวัดที่สองเป็นวัดที่อยู่บางขุนพรหม คือวัดสังเวชวิศยาราม และวัดที่สามเป็นวัดโชติการามและวัดสามจีนใต้ คือวัดไตรมิตรพิทยารามในปัจจุบัน โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสถานีรถไฟหัวลำโพง และทิศเหนือของวัดจรดกับถนนพระรามสี่ ทิศใต้จรดถนนตรีมิตร ทิศตะวันออกจรดกับซอยสุกร 1 และทิศตะวันตกจรดกับถนนเจริญกรุง ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลาบลุ่มซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมขังตลอด ในปัจจุบันจึงได้มีการปรับปรุงใหม่ให้เป็นพื้นที่โดยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด โดยเอกลักษณ์ของวัด คือ พระมหามณฑปชั้น 4 ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ที่มีความสวยสง่างาม

 

บทความแนะนำ